Please Click Here

Please Click Here
October24,2011 (Amazing Of Thailand)

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปกับเพลงดัง

Gwen Stefani - Cool
It's hard to remember how it felt before
Now I found
the love of my life...
Passes things get more
comfortable
Everything is going right

And after all the
obstacles
It's good to see you now with
someone else
And
it's such a miracle that you and me
are still good friends
After all that we've been through
I know
we're cool

We
used to think it was impossible
Now you call me by my new last name
Memories seem like so long ago
Time always kills the pain

Remember Harbor Boulevard
The dreaming days where the mess was made
Look how all the kids have grown
We have changed but we're
still the same
After all that we've been through
I know
we're cool

And I'll be happy for you
If you can be happy for me
Circles and triangles, and now we're
hangin' out with your new girlfriend
So far from where we've been
I know we're cool

แกรมม่าน่ารู้

It's hard to  (เป็นเรื่องยากที่จะ) 
  It's hard to
  เป็นเรื่องยากที่จะ  ตามด้วย Verb to + infinitive  ตัวอย่างเช่น It's hard to forget the pain  (มันยากที่จะลืมความเจ็บปวด)  และในเมื่อเราใช้   hard ได้ ทำไมเราจะใช้ easy  บ้างไม่ได้...นี่เลย  It’s easy to fall in love with someone  (เป็นเรื่องง่ายที่จะตกหลุมรักใครซักคน)

Comfortable (adj.)     (รู้สึกดี สบาย)
  ในเพลงนี้หมายถึง  รู้สึกดีขึ้น 
passes things get more comfortable  คือหลังจากที่ได้ผ่านอะไรมาหลายอย่างแล้ว  เราก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น  comfortable  นอกจากจะมีความหมายว่าสบายกายแล้ว  ยังมีความหมายว่าสบายใจด้วย  เช่น  When I’m with you I feel comfortable  (เวลาอยู่กับเธอแล้วฉันรู้สึกสบายใจ)

It's such a miracle   (เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์)
  Miracle  เป็น noun  แปลว่า สิ่งหรือเหตุการณ์มหัศจรรย์  น่าทึ่ง  ปาฏิหาริย์  ในเพลงนี้มีความหมายว่า  เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ที่เราสองคนยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้   It's such a miracle that you and me are still good friends   ส่วน adj. ของ miracle คือ  miraculous

Used to   (เคย , เคยชิน)
  การใช้
used to   เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในอดีตว่าเคยทำอะไร แต่ปัจจุบันไม่ทำแล้ว  รูปแบบการใช้ก็ง่ายมากๆ  ไม่ต้องมีการผันกริยาเป็นอดีตให้เสียเวลา  แค่ขึ้นต้นด้วย  used to  แล้วตามด้วย Verb to + infinitive  เท่านั้นเอง   เช่น  I used to play piano when I was young  (ฉันเคยเล่นเปียโนสมัยยังเป็นเด็กๆ)

Still  (ยังคง)
ในเพลงนี้บอกว่า 
We’re still the same.  คือเรายังคงเหมือนเดิม  ถึงแม้ว่าเราสองคนจะไม่ได้ลงเอยรักกัน  แต่มิตรภาพที่มีให้กันก็ยังดีเหมือนเดิม  still  ยังแปลว่า  นิ่ง  เช่น  น้ำนิ่งก็ใช้ว่า  still water  อยู่นิ่งๆ ก็ใช้ว่า  stay still

The love of my life  (สุดที่รัก ผู้เป็นที่รักในชีวิต)
เดี๋ยวนี้เวลาจะไปบอกรักใครแค่ 
I love you  น่ะ ธรรมดาไปแล้ว  You are the love of my life  ใครได้ยิน  รับรอง  ใจละลายชัวร์  ดีกรีความโรแมนติกจะพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดแน่นอน
Obstacle  (n.)     (อุปสรรค  สิ่งกีดขวาง)
  ในรูปของกริยาคือ
 to obstruct  ตัวอย่างประโยคเช่น  I won’t let anything obstruct our love  แปลว่า ฉันจะไม่ยอมให้อะไรมาเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของเราได้  (อู้! ยึดมั่นในอุดมการณ์มากๆจ้ะ)

We’re cool.   (สบายๆ)
  ไม่ได้แปลว่าเราสองคนรู้สึกเย็น  หรือเราสองคนนั้นดูเท่นะจ๊ะ 
cool  ในที่นี้หมายถึง  โอเค  ไม่เป็นไร  สบายๆ  เพราะไม่มีเรื่องร้อนใจ  เราสองคนต่างโอเค  เพราะทำใจได้แล้ว

Time always kills the pain.    (เวลาทำให้ความเจ็บปวดหายไป)  
  เป็นสำนวนอมตะที่คอยช่วยเตือนสติคนอกหักไม่ให้กลัดกลุ้มอยู่กับความทุกข์มากเกินไป
Time always kills the pain   เวลาเท่านั้นแหล่ะที่เป็นยาช่วยรักษาอาการอกหักได้ดีที่สุด

Hangin’ out    (ออกไปเที่ยว)
  hang  แปลว่า แขวน  สำนวน to hang out  ก็อารมณ์ประมาณเดียวกันคือ  จะเอาตัวเองไปแขวน,ค้าง  เตร็ดเตร่กันที่ไหน  ตัวอย่างเช่น  I love to hang out at this pub.  (ฉันชอบไปเที่ยวเตร่ที่ผับนี้)  ระวังนะบางคน hang out ไป hang out  มา  สุดท้ายก็จะจบด้วยอาการ  hang over  คือเมาค้างนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น